ห้องที่ ๗๔ : สมเด็จพระเจ้าบรมวงษเธอ เจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระบำราบปรปักษ


           ฝ่ายสารัณทูตเร้นเหนมนุษย์ ฟื้นนอ
อุรุครัดมัดลุ่ยหลุดครุธแก้
พลลิงโห่อึงอุดกลับพลับ พลาเอย
ต่างขับม้าควบแต้รีบเข้าเมืองมาร
          ครั้นถึงทูลแด่ท้าวทศกรรฐ
ราเมศมาโศกศัลย์สร่างแล้ว
แผลงศรเรียกสุบรรณ์โฉบเฉี่ยว นาคนา
พระลักษณ์ลิงตัวแกล้วกลับฟื้นคืนคง
          ทศเศียรร้อนจิตรแม้เพลิงเผา
อ้ายพิเภกแนะเขาจึ่งรู้
ใครอยูบอกลูกเราให้รีบ มานา
เออว่าตายมันสู้คิดแก้กันคืน
          กำนัลรับสั่งท้าวทศภักตร์
ไปนิเวศน์พระยายักษลูกเจ้า
ทูลว่าหมู่ปรปักษ์ไม่มอด ม้วยนา
เชิญเสดจขึ้นไปเฝ้าจักให้รณรงค์
          อินทรชิตทราบข่าวแค้นใจจน ใจนา
ร้อนอกเล่หเพลิงลนลวกไหม้
รับสั่งราชการรณรงค์เร่ง เรวพ่อ
จำจิตรขึ้นเฝ้าให้ย่อท้อบิดุรงค์
          ทศกรรฐผันภักตร์จ้องเอารส
จำกล่าวคราวร้อนอดเคียดขึ้ง
เออพระลักษณนาคมัดหมดท้งงพวก พลนา
มีครุธยุทธแย่งทึ้งหลุดฟื้นทำไฉน
          อินทรชิตฟังตรัสแล้วอภิวันท์ ทูลเอย
นาคบาศพรหมเมศสรรประสิทธิให้
ศักดานุภาพบรรฦๅเลิศ
เพราะพิเภกสาวไสร้บอกแก้ศรศรี
          ความเจ็บลูกปวดปิ้มปืนพิศม์
เรืองเท่าเรืองห่อนคิดครั่นคร้าม
พรหมมาศอิศรประสิทธิเดชเวท มีนา
คงคิดควักตับม้ามปอดไส้รใจดู
          ขอลาไปตั้งชุบสาตรศร
ในหว่างยุคันธรหาดกว้าง
จัดทัพรับพานรไปก่อน
คำว่าตายอย่าอ้างอดไว้ไตรวาร
          ทศเศียรสดับถ้อยปิโยรส
ดังหนึ่งได้โสฬศฟากฟ้า
รุมร้อนผ่อนหายหมดจึ่งตรัส ตอบเอย
ความคิดใครในหล้ายากแท้จักทัน
          ซึ่งจักไปตั้งชุบศรสิทธิ นาฮา
จุ่งลุได้โดยจิตรคิดไว้
สัตรูหมู่ปัจจามิตรอย่าต่อ ต้านเอย
กำปั่นพ่อจักให้ออกร้งงรับผจญ
          อินทรชิตก้มเกษเกล้ารับพร
เปรมกระมลลาจรยาตรเยื้อง
มาปราสาทอลงกรณ์สถิตยแท่น ทองเอย
ร้อนอุระค่อยปลดเปลื้องสั่งให้จัดพล
          ครั้นรุ่งเข้าสู่ห้องสรงสนาน
ทรงเครื่องอลังการสรรพ์เสร็จพร้อม
เลอรถหัดถ์ธธานพรหมมาศ
ได้ฤกษเลิกพลห้อมแห่เต้าตามขบวน
          มาถึงที่หว่างเวิ้งสัตภัณฑ์
ฝั่งสมุทศรีธันดรหาดแก้ว
มีไม้ตร่างสำคัญกรวดขจิต เขียวเฮย
สั่งพัทกาลมารแกล้วแต่งตั้งโรงพิธี
          พัทกาลบังคับให้โยธี รดมมา
เร่งปลูกโรงยาวรีใหญ่กว้าง
เฉลียงรอบนับห้องมีสามสิบ สามแฮ
แต่งอาศน์ดาษพิดานบ้างแวดล้อมฉัตรธง
          วโรรสทศภักตรได้ดังประสงค์
จึ่งโสรดสนานองค์สระเกล้า
ภูษิตรัตน์อลงกฎประดับ เขียวแฮ
เสร็จจับพรหมมาศเข้าสู่ห้องพิธีกรรม
          ขึ้นนั่งเหนือแท่นแก้วพรายพรรณ์
จุดธูปเทียรสุวรรณนบไหว้
บูชามหิศวรสรรสิทธิสาตร ศรเฮย
พรหมมาศพาดตักไว้พร่ำพร้องศิวมนต์
          ดาราดิเรกแพร้วรัศมี อับเอย
บูรพพระฮามไขศรีส่องหล้า
กฤษณุรักษจักรีผธมตื่น
สรงเสร็จเสด็จออกข้าบาทเฝ้าคอยสนอง
          อัษฎาทศประนตน้อมฟังสาร
สุครีพทูลพลาหารขัดไร้
พลกระบี่ออกรอนราญต่างอิด โรยนา
นิลพัทไม่มาให้เฃตรใกล้สุดแสวง
          ทรงฟังวิตกตื้นเติมทุกข์
แม้ว่าศึกเฉินฉุกต่อสู้
พลเราออกรับรุกจักย่อย ยับเอย
เออพิเภกเคยรู้ป่าไม้ใดดี
          พิเภกน้อมศิรเกล้ากราบทูล
ป่าชื่อสาลวันพูลเพียบไม้
พวงผลกลาดบริบูรณภอพัก พลนา
สนุกนิ์ดังแสร้งสร้างไว้ฝั่งน้ำหนอุดร
          ทรงสดับชอบด้วยราชอัธยา ไศรยเฮย
สั่งพิเภกท่านหาช่วยบ้าง
จงรีบยกโยธาสองสมุท ไปแฮ
สุดแต่ส่งอย่าค้างเร่งร้อนเรวมา
          พิเภกรับใส่เกล้าทูลพลัน
วันหนึ่งกลับมิทันพรุ่งช้าว
ข้าศึกยกพลขันธ์ออกหัก โหมเฮย
อินทรชิตทนงห้าวอย่าให้เสียที
          ทูลแถลงเปนเล่ห์แล้วลาจร
ตรวจกระบินทร์นิกรครบถ้วน
ต่างตนเทิดหาบคอนข้ามสมุท ไปเฮย
เดินทุ่งวุ้งเวิ้งล้วนหมู่ไม้ไพรพนอม
          ทศเศียรไสยาศร้อนทรวงหมอง
หลับเนตรหฤไทยตรองตฤกสู้
จนพระสุริยเรืองรองส่องโลกย์
ออกพระโรงตรวจผู้ต่อต้านพานรินทร์
          สั่งอสูรกำปั่นกล้ารณยุทธ
จงยกพลสิบสมุทกลั่นแกล้ว
ขัดทัพรับมนุษย์ไว้ก่อน นาฮา
อินทรชิตเสร็จพิธีแล้วจักได้รณรงค์
          คำนับรับสั่งแล้วลามา
จัดทัพแต่งอังคาพยพหมั้น
ขี่คชยาตรโยธาโห่ครั่น ครื้นเอย
ถึงที่ยุทธแห่งหั้นหยุดช้างกลางพล
          ช้างศึกซนอดกล้างายาว ใหญ่เอย
มันตกเข้าปากพราวพร่ำท้าย
เสียงโห่สืบก้าวสาวหมายผึ่ง กระหึมฮือ
ยืนหยุดย่ำยกย้ายสร่ายคว้างกลางสนาม

จบห้องที่ ๗๔

  เนื้อความกล่าวถึงสารันตทูตเห็นพญาครุฑมาจิกนาคให้หนีไปช่วยให้พระลักษณ์และเหล่าวานรฟื้นกลับไปยังพลับพลาก็เข้าไปทูลทศกัณฐ์ ทศกัณฐ์จึงให้เรียกอินทรชิตมาเฝ้าเล่าเรื่องให้ทราบ อินทรชิตจึงทูลขอไปทำพิธีชุบศรพรหมมาศที่หาดเชิงเขายุคนธรเป็นเวลา ๓ วัน ขอให้ทศกัณฐ์สั่งให้มีผู้ไปขัดตาทัพไว้ก่อน พร้อมทั้งสั่งว่าภายใน ๓ วัน อย่าเอ่ยคำว่าตายให้ได้ยิน หลังจากนั้นอินทรชิตก็ยกพลไปประกอบพิธีที่หาดริมทะเล
  กล่าวถึงพระราม เมื่อทราบว่าผลาหารเริ่มขาดแคลน จึงสั่งให้พิเภกพาพลวานรไปหาผลไม้ที่ป่าสาลวัน เมื่ออินทรชิตออกไปทำพิธีชุบศรแล้ว ทศกัณฐ์จึงให้ยักษ์กำปั่นออกรบขัดตาทัพ

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ใครอยู่บอกลูกเรา”